วิตามินบี 12
วิตามินบี 12 เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการทำงานของร่างกายหลายอย่าง อาทิ ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาท และการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดวิตามินบี 12 จากความสามารถในการดูดซึมวิตามินบี 12 จากอาหารที่ทานจะลดลงน้อย นอกจากนี้ยาบางชนิดที่ทานยังสามารถลดการดูดซึมวิตามินบี 12 ได้อีกด้วย
อาการเบื้องต้นของการขาดวิตามินบี 12 ได้แก่ อ่อนเพลีย อ่อนแรง ท้องผูก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และลิ้นบวมอักเสบ กรณีที่ขาดวิตามินบี 12 อย่างมาก อาจนำไปสู่โรคโลหิตจางและปัญหาทางระบบประสาท
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 12 ได้แก่ เนื้อ ปลา สัตว์ปีก ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมสามารถช่วยป้องกันการขาดวิตามินบี 12 ได้
วิตามินบี 6
วิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ มีบทบาทในการเผาผลาญโปรตีน การผลิตสารสื่อประสาท และการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดวิตามินบี 6 จากการดูดซึมลดลงรวมถึงการขับวิตามินบี 6 ในแต่ละวันที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุ และยาบางชนิด เช่น ยาที่ใช้รักษาอาการเสียดท้อง สามารถลดระดับวิตามินบี 6 ได้
อาการของการขาดวิตามินบี 6 อาทิ โรคโลหิตจาง เหนื่อยง่าย และเหน็บชา เป็นต้น
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 6 ได้แก่ ปลา สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว และผลไม้
วิตามินดี
วิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งจำเป็นต่อกระดูก การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ร่างกายสามารถผลิตวิตามินดีได้เมื่อผิวหนังถูกแสงแดด แต่ผู้สูงอายุจำนวนมากมักไม่ได้รับแสงแดดที่เพียงพอต่อการผลิตวิตามินดีด้วยตัวเอง
นอกจากกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอแล้ว ความสามารถในการผลิตวิตามินดีของผิวหนังของผู้สูงอายุก็ลดลง รวมถึงยาที่ขัดขวางการดูดซึมวิตามินดี
อาการของการขาดวิตามินดี รวมถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกระดูก และความเสี่ยงกระดูกหักในการหกล้ม ระดับวิตามินดีต่ำยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งบางชนิด เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง และโรคติดเชื้อ
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี ได้แก่ ปลาที่มีไขมัน ไข่แดง และเห็ด
แคลเซียม
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการทำงานของกล้ามเนื้อ การทำงานของเส้นประสาท และการแข็งตัวของเลือด
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดแคลเซียม จากการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารและอัตราการสูญเสียมวลกระดูกยังเพิ่มขึ้นตามอายุ ซึ่งทำให้ยากต่อการรักษาระดับแคลเซียมให้เพียงพอ
อาการของการขาดแคลเซียม อาทิ กระดูกอ่อนแรง ตะคริวที่กล้ามเนื้อ และอาการชาที่มือและเท้า เมื่อเวลาผ่านไป การขาดแคลเซียมสามารถนำไปสู่โรคกระดูกพรุน ซึ่งเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนแอและเปราะบาง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะกระดูกหัก
อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม ชีส และโยเกิร์ต รวมถึงผักใบเขียว ถั่ว และเมล็ดพืชต่างๆ
กรดไขมันโอเมก้า 3
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญของสุขภาพของหัวใจ สมอง การทำงานของภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ
กรดไขมันโอเมก้า 3 อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและอัลไซเมอร์
อาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน รวมทั้งเมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเชีย และวอลนัท
ไฟเบอร์
ไฟเบอร์เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ร่างกายไม่ย่อยหรือดูดซึม มีบทบาทสำคัญในการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงและป้องกันอาการท้องผูก
อาหารที่เป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดี ได้แก่ ผลไม้ ผัก เมล็ดธัญพืช พืชตระกูลถั่ว และถั่วเปลือกแข็ง
เมื่ออายุมากขึ้นวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ได้รับจากการดูดซึมจากอาหารนั้นย่อมไม่เพียงพอ รวมทั้งสาเหตุอื่น ๆ ที่ผู้สูงอายุต้องการอาหารเสริม แต่ก่อนจะซื้อวิตามินหรือแร่ธาติใด ๆ ให้ผู้สูงอายุควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนทานวิตามินหรือแร่ธาตุเสมอ